สนามกีฬากลางแจ้งมีลุ้น ศบค. เผยรายชื่อกิจกรรมเข้าข่ายปลดล็อกเฟส 2

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงเกี่ยวกับการผ่อนคลายให้กิจการบางประเภทเปิดดำเนินการได้ในระยะที่ 2 โดยระบุว่า ขณะนี้มีร่างประเภทกิจการและกิจกรรมที่เข้าข่ายเปิดได้ในระยะที่สอง ซึ่งถือว่ายังไม่เป็นทางการ เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ที่ประชุมใหญ่ ศบค. จะมีการพิจารณาและอนุมัติอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ว่ามีกิจการและกิจกรรมใดสามารถเปิดดำเนินการได้บ้าง

อย่างไรก็ตามที่นำมาเปิดเผยก่อน เพื่อให้ผู้ประกอบการ และผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับสถานที่เหล่านี้ได้เตรียมตัวเพื่อรับมือการผ่อนคลายระยะที่ 2 ต่อไป โดยกิจการและกิจกรรมต่างๆที่จะอนุญาตให้เปิดในระยะที่2มีดังนี้

1.กิจการ-กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตประจำวัน
กลุ่ม ก. การจำหน่ายอาหาร หรือ เครื่องดื่ม ในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร และ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศกรีม ในอาคารสำนักงาน

กลุ่ม ข. ห้างสรรพสินค้า และ ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ยกเว้น โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส ลานโบว์ลิ่ง สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์ประชุม และ ศูนย์พระเครื่อง สนามพระ พระบูชา

กลุ่ม ค. ร้านค้าปลีก ค้าส่ง อื่นๆ

กลุ่ม ง. ร้านเสริมสวย (ย้อมผม ดัดผม หรือกิจกรรมอื่นๆ ภายในเวลาการบริการไม่เกิน 2 ช.ม.) และ ร้านทำเล็บ

2.กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย หรือ ดูแลสุขภาพ
กลุ่ม ก. คลินิกเวชกรรม เสริมความงาม สถานเสริมความงาม ควบคุมน้ำหนัก

กลุ่ม ข. สนามกีฬา เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้ง และตามกติกาสากลเล่นเป็นทีม ไม่มีผู้ชม

กลุ่ม ค. สวนดอกไม้ สวนพฤกศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ ห้องสมุดสาธารณะ (เข้าเป็นรายคน)

กลุ่ม ง. สถานประกอบการนวดแผนไทย เฉพาะนวดเท้า

3.กลุ่มอื่นๆ
-กิจกรรมการประชุม ณ สถานที่ภายในและภายนอกองค์กร ลักษณะการบรรยายร่วมกับวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (จำกัดจำนวนคนตามพื้นที่) ทีมถ่ายทำรายการโทรทัศน์ โฆษณา ถ่ายแบบ ทำคลิป (จำนวนไม่เกิน 5 คน)

กิจการหรือกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมดนี้ยังเป็นแค่เบื้องต้น ซึ่งยังต้องรอการหารือร่วมกันของหลายฝ่าย รวมทั้งที่ประชุมใหญ่ ศบค. ทั้งนี้ คาดว่า รายละเอียดต่าง ๆ ที่เป็นข้อสรุปฉบับสมบูรณ์จะออกมาหลังจากที่มีการประชุม ศบค. ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ซึ่งอาจมีรายละเอียดเกี่ยวกับสถานประกอบการที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการประชุมพูดคุยจากทุกฝ่าย โดยผู้ประกอบการที่ได้รับการผ่อนปรนในระยะนี้จะต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้ โควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง